วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2553


พอนึกถึงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลแนวหน้าของยุโรปทีไร เหล่า Red Army ทุกคน ก็นึกย้อนไปถึงในอดีตในปี 1902 แต่ก่อนหน้านี้ ทีมขวัญใจของเราไม่ได้ชื่อนี้ พวกเขาถือกำเนิดด้วยชื่ออื่นๆ ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานเกินกว่า 100 ปีในปี ค.ศ.1878 พนักงานการรถไฟสายแลงคาเซี้ยร์ แอนด์ ยอร์คเชียร์ ในระหว่างที่กำลังรับประทานอาหารมื้อเย็นอยู่นั้น พวกเขา ได้ร่วมก่อตั้งทีมฟุตบอลกันขึ้นมา และตะเวณเล่นกันอยู่ในแถบเมือง นอร์ธกราวด์ ซึ่งอยู่ใน นิวตัน ฮีธ สถานที่ซ้อมก็ใช้รางรถไฟ เป็นเส้นแบ่งเขตสนาม ตลอดจนเสียง และควันจากรถไฟเครื่องจักรไอน้ำ ทีมฟุตบอล นิวตัน ฮีธที่พวกเขา ตั้งขึ้นมาก็เล่น ฟุตบอล กัน ได้อย่างดีเยี่ยมน่าประทับใจ โดยชุดแข่งที่ใช้เสื้อสีเขียว-เหลือง อย่างละครึ่ง กางเกงสีดำเป็นชุดเก่ง พนักงานที่อยู่ในแถบนั้น แพ้นิวตัน ฮีธ กระจุย ในปี 1885 สมาชิกในทีมได้ตัดสินใจติดต่อกับการรถไฟ และก่อตั้งทีมเพื่อเป็น บริษัท จำกัด โดยใช้ชื่อว่า นิวตัน ฮีธ ฟุตบอลคลับ ผลงานชิ้นแรกของเขาคือการคว้าแชมป์ แมนเชสเตอร์ คัพมาครอง นั้นคือถ้วยแรกของทีม นิวตัน ฮีธ ต่อมาอีกสามปีฟุตบอลลีคของอังกฤษ ได้ก่อตั้งกันขึ้นมา ทีมรอบๆเมือง โบลตัน กับแอคคริงตันถูกเชิญเข้าร่วมการแข่งขัน ยกเว้นนิวตัน ฮีธ แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เพราะยังมีอีกหลายทีมที่ไม่ได้รับเชิญเข้าเป็นสมาชิกในตอนแรก พวกเขาก่อตั้งลีคกันเองโดยใช้ชื่อว่า อัลไลแอนช์ โดยมีเชฟฟิลด์ เว้นท์เดย์,นอสติ้งแฮม ฟอเรสต์ และ สมอลล์ ฮีธ ซึ่งใน ปัจจุบันก็คือทีม เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ นั่นเอง การแข่งขันในฤดูกาลแรกของพวกเขาได้อันดับ 8 จาก 12 ทีม ปีต่อมาได้อันดับ 9 ในปี 1891 พวกเขาได้ รองแชมป์ในปี ีต่อจากนอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ อย่างไรก็ตามปีต่อมาฟุตบอลลีค มีการแก้ไขเรื่องสมาชิกใหม่ พวกเขาตอบรับการ เข้าร่วม ในลีค การแข่งขันของทีม นิวตันฮีธ เปิดฤดูกาลใหม่พวกเขาแพ้ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 3-4 จากนั้นทีกก็ล่วงไม่เป็นท่า โดยชนะแค่ 6 ครั้งใน 30 นัด ตกไปอยู่ในอับดับบ๊วยของตาราง ก่อนที่จะรอดการตกชั้นเพราะว่า พวกเขาชนะ สมอลล์ ฮีธ 5-2 ที่บรามอลล์เลน ปีต่อมา พวกเขาเล่นแย่เหมือนเดิม กลายเป็นทีม ที่อยู่ในอันดับบ๊วยของตาราง และก็โดน ลิเวอร์พูลถล่มเอาชนะไป2-0ทำให้ นิวตัน ฮีธ ตกชั้นไปในที่สุด ช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่ย่ำแย่ของพวกเขา แม้จะมีการยุบลีคและตั้งใหม่ แต่ทีมก็มีปัญหาใน การ เข้าร่วม เนื่องจากสถานะทางการเงินไม่เอื้ออำนวย ก่อนที่จะล้มละลาย ในปี 1902 จอห์น เดวี่ส์ เจ้าของกิจการเบียร์ท้องถิ่น เข้ามาดูแลกิจการของสดมสร พวกเขาย้ายมาจาก นอร์ธ โร้ด เพื่อไป ใช้สนามใหม่แถบ แบงค์ สตรีท หลังจากที่ อยู่ที่นอร์ธ โร้ด มา 9 ปีเต็ม ขณะเดียวกันเพื่อนบ้านคู่แข่งขันอย่าง อาร์คลิค เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ประธานสโมสรคนแรกของ นิวตัน ฮีธ บอกว่าทีมของเขาสมควรที่จะใช้ชื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มากกว่า แต่ถึงอย่างไรทีมก็ช้าไป พวกเขาเลยตั้งชื่อกันมา มากมายหลายชื่อ เช่น แมนเชสเตอร์ เซนทรัล,แมนเชสเตอร์ เซลติก, สองชื่อนี้ถูกปฏิเสธ ในที่สุดชื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงเข้ามาแทนที่ 26 เมษายน 1902 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือชื่ออย่างเป็นทางการของพวกเขา จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ โดยผู้จัดการทีมคนแรกคือ เออร์เนสต์ แมกนัลล์ แต่ทีมที่ประสบความสำเร็จ กลับกลายเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพได้ในปี 1904 ทว่าในเวลาต่อมาโดยสอบสวนพบว่ามีการจำหน่ายตั๋วผี ก็เลยทำให้ เมืองแมนเชสเตอร์ โดนแบน ห้ามยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอล 1 ปี พอพ้นกำหนดโทษห้ามเล่น บิลลี่ เมเรดิธ นักเตะชาวเวลส์ กลายเป็นสมาชิกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทันที ปีเดียวที่สามารถคว้าแชมป์ดิวิชั่นสอง และเลื่อนชั้นมาเล่นในดิวิชั่นหนึ่ง ภายในระยะเวลาสองปี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำสถิติยิง 82 ประตู คว้าแชมป์สมัยแรกไปครอง อย่างยื่งใหญ่ ในปี 1908 ด้วยสไตล์การเล่น ที่รู้กันอยู่ว่า "เร็วและสวยงาม" อย่างไรก็ตาม จอห์น เดวี่ร์ ประธานสโมสร ได้ทำการเปลี่ยนแปลงสนามเหย้าของทีม อีกครั้ง เขาตัดสินใจ ย้ายจากแบงค์ สตรีท ที่โดนวิพากษ์วิจารณ์ว่า พื้นสนามนั้นแย่มาก เขาย้ายห่างจากตัวเมืองไปอีก 5-6 ไมล์ ที่นั่นคือ .แทร็ฟฟอร์ด พาร์ค ย่านชานเมืองแมนเชสเตอร์ และเดวีร์เรียก สนามนัดเหย้า ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแห่งนี้ว่า...โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด บ่ายสาม...6 ก.พ. 1958 ที่มิวนิค นั่นคือเหตุการณ์ที่นำมาซึ่งความโศกสลดในวงการฟุตบอลอังกฤษ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังสร้างทีมได้อย่างมั่นคงและเริ่มต้นไขว่คว้าหาความสำเร็จในเวลานั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดินทางไปแข่งขัน ฟุตบอลสโมสรยุโรปกับเร้ดสตาร์ เบลเกรด ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย พวกเขาแวะที่มิวนิคเพื่อเติมน้ำมันก่อนกลับลอนดอน บางทีถ้าหากคุณเป็นส่วนหนึ่งของ ขุนพลนักเตะชุดนั้น คุณจะได้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่า สีหน้าของขุนพล ทั้งหมดที่ไปชุมนุมกันก่อนขึ้นเครื่องบิน บีอีเอ เอลิซาเบธ นั้นเป็นยังไงในความพยายาม ของกัปตันที่ จะนำเครื่องขึ้นทะยานสู่ ท้องฟ้าหลัง จากแวะเติมน้ำมันที่สนามบิน เรม ของมิวนิคเรียบร้อยแล้ว บีอีเอพยายามสลัดให้พ้นรันเวย์ของเรม สองครั้ง สองครา ในความพยายามครั้งที่สาม จอห์นนี่ เบอร์รี่ ขุนพลของทีมพูดเล่นๆกับ เลียม วีแลน ว่าเรากำลังจะตาย ในความ เป็นจริงเบอร์รี่รอดตาย แต่วีแลนพร้อมทั้ง โรเจอร์ ไบรน์,เจฟฟรี่ย์ เบนต์,เอ็ดดี้ ดอลแมน,มาร์ค โจนส์,เดฟ เพก,ทอมมี่ เทย์เลอร์ เสียชีวิตพร้อมกันกับลูกเรือและเจ้าหน้าที่ทีม เครื่องบินตกใส่บ้านคนในสภาพที่หนาวเหน็บ หิมะตก คนที่เสียชีวิต ในเวลาต่อมา คือ ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์ นักเตะที่เล่นให้ทีมชาติอังกฤษด้วยอายุน้อยที่สุด เขานอนโรงพยาบาล 15 วัน ก่อนที่จะสิ้นลม นอกจากนี้ยังมี ทอมแจ๊คสัน และแฟร้งค์ สวิฟต์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีม แฮรี่ เกรกก์ ผู้รักษาประตูอีกคนหนึ่งของทีม กล่าวว่า ไม่มีเสียงร่ำไห้ ไม่มีเสียงคร่ำครวญ สภาพวันนั้นมีแต่ความมืดและกลิ่นน้ำมันเครื่องบิน หลังจากรอดพ้นความตายอย่าง หวุดหวิด เกรกก์รู้สึกละอายใจที่เขารอดในขณะเพื่อนรว่มทีมเสียชีวิตกันจนหมด นั่นรวมทั้ง แมตต์ บัสบี้ ที่รอดพ้นการตาย ในโรงพยาบาล กลับยืนหยัดลุกขึ้นมามุ่งมั่นจนพาทีมประสบความสำเร็จอย่างสุดยอด ทีมของเขาเป็นแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพ บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก นั่นคือส่วนหนึ่งของความสำเร็จที่ไม่ได้มาแบบโชคช่วย ภาพนาฬิกามิวนิคที่ติดตั้ง อยู่บริเวณ อัฒจรรย์หน้า โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แสดงถึงวันที่เครื่องบินตกและ เวลาเพื่อย้ำเตือนแฟนผีแดงรุ่นใหม่ให้ใส่ใจกับ ประวัติศาสตร์อันน่าสะเทือนใจของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เกิดขึ้นเมื่อบ่ายสามโมงของ วันที่ 6 ก.พ

3 ความคิดเห็น:

  1. เนื้อความมีประโยชน์มากคับ

    ตอบลบ
  2. ไม่ค่อยชอบแมนยูเท่าราย

    แต่ดวลกับบาซ่าได้นะ อิอิ

    ตอบลบ
  3. "Thank you for nice information
    Please visit our website unimuda and uhamka"

    ตอบลบ